ชาวเน็ตโพสต์ หลังกรณีมีดาราขับเจ็ตสกี เพื่อเข้ามาถ่ายทำภาพยนต์ ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง หวั่นส่งผลกระทบต่อพะยูนและสัตว์ทะเลอื่น ๆ ได้ เนื่องด้วยพะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความบอบบาง หากได้ยินเสียงอะไรที่แปลกปลอม อาจเกิดภาวะเครียดและเป็นอันตราย
จากกรณีที่มีผู้โพสต์เรื่อง ดาราขับเจ็ตสกีรบกวนพะยูน ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อเข้ามาทำการถ่ายทำภาพยนต์ โดย ทางนายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว รายงานให้ทราบว่าตามที่มีผู้ร้องไปทางสื่อ ประเด็นมีกลุ่มบุคคลได้นำเรือเจ็ทสกีเข้ามาขับในเขตฯ ลิบงบริเวณ (อ่าวทุ่งจีน) และ อาจทำให้เกิดอันตรายจากเรือพะยูนและสัตว์ทะเลอื่น ๆ ได้
ต่อมา เมื่อวันที่ 14 ก.พ. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Tom Potisit" ออกมาโพสต์จากกรณีที่เกิดขึ้น โดยเผยว่าพะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความละเอียดอ่อน บอบบาง และเรายังต้องเรียนรู้พฤติกรรมเพื่อดูแล อนุรักษ์และ รักษาพวกมันอีกมาก และสำหรับพะยูนแค่ได้ยินเสียงอะไรที่แปลกปลอมรบกวนการอยู่อาศัยแบบเป็นธรรมชาติก็จะตกใจ จนอาจเกิดภาวะเครียด สัตว์ประเภทนี้ต้องระมัดระวังเรื่องการเกิดความเครียดซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดูในภาพจะเห็นการว่ายหนีเพราะเครื่องบินสำรวจบินลงต่ำ ขี้ตกใจมาก เวลาที่ทำการสำรวจจึงต้องรักษาระยะความสูงเพื่อไม่ให้รบกวน จากการสำรวจโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเหลือพะยูน อยู่ประมาณ 250 ตัว ส่วนสถิติการตายหากเทียบกับสถิติช่วง 12 ปีที่ผ่านมา พบว่าปีที่แล้วมีพะยูนเกยตื้นและตายมากที่สุด มากกว่า 20 ตัว
สำหรับประเด็นที่มีกลุ่มคนเข้าไปทำถ่ายทำภาพยนต์และนำเจ็ตสกีเข้าไปในพื้นที่ แม้ไม่มีใบพัดแต่ด้วยความเร็ว มันชนจนเกิดอันตรายได้และเป็นการรบกวนสัตว์สงวนในถิ่นอาศัย ในอดีตมีสถิติการตายจากกิจกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะเรือเร็วอาจชนทำให้พะยูนบาดเจ็บหรือตายได้นั้น ในระยะหลัง มักเจอสัตว์หายากที่บาดเจ็บหรือตายจากเรือชนหรือโดนใบจักรเป็นประจำ ในส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของที่ดูแลรับผิดชอบที่พื้นที่ยิ่งต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อพื้นที่ที่ดูแลมากกว่าภาพที่จะออกมาให้คนดูเพื่อความเพลิดเพลินโดยเฉพาะผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสัตว์ที่เสี่ยงต่อภาวะสูญพันธุ์อย่างพะยูนด้วย